จัดฟัน (Orthodontics)

shutterstock_174145109

การจัดฟัน       

       เป็นการรักษาเพื่อจัดเรียงฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงาม แก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่นมากเกินไป เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ อันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือกในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ ลดการเกิดรอยสึกของฟันจากการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะสม เช่น ปลายฟันหน้าบนล่างสบกระแทกกันทำให้ฟันสึกเตี้ยลง และยังช่วยเสริมบุคคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงตัวสวยงาม

ช่วงอายุเท่าไรที่เหมาะกับการจัดฟันมากที่สุด

       ช่วงอายุที่เหมาะกับการจัดฟันมากที่สุด คือ ช่วงอายุประมาณ 12-13 ปี ซึ่งอายุช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นครบ และขากรรไกรเริ่มมีการเจริญเติบโต ทำให้การขยายหรือลดรูปร่างขากรรไกรเป็นไปได้ง่าย

แต่จริงๆแล้ว ทุกเพศและทุกวัยสามารถจัดฟันได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยผู้ใหญ่สามารถจัดฟันได้เช่นกัน หากสภาพโครงสร้างของฟันและโครงกระดูกหน้าอยู่ในสภาพเหมาะสม และผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เริ่มสนใจการจัดฟันมากขึ้นเนื่องจาก ตระหนักถึงรอยยิ้มเป็นสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของบุคลิกภาพ

การจัดฟัน จะต้องถอนฟันด้วยหรือเปล่า

       การจัดฟันไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องถอนฟันทุกเคส ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการที่ อยากได้จากการจัดฟันของคนไข้ เป็นหลัก ภายใต้ความเป็นไปได้ของแผนการรักษา

         ในผู้ป่วยบางรายที่มีฟันซ้อนกัน หรือฟันเกมากๆ การถอนฟันมักจะต้องทำเพื่อเพิ่มช่องว่างให้เหมาะสำหรับการเรียงตัวของฟัน โดยซี่ที่มักจะถูกถอน คือ ฟันกรามน้อยที่อยู่ถัดจากฟันเขี้ยว แต่ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาถอนฟันที่มีความผิดปกติ เช่น ผุมาก หรือมีรูปร่างผิดปกติ เพื่อเก็บฟันซี่ที่ดีที่สุดไว้ แต่อาจจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น หรืออาจจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อช่วยในการรักษา

เวลาที่ใช้ในการจัดฟันนานแค่ไหน

         ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันโดยส่วนใหญ่แล้ว จะใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของคนไข้แต่ละท่าน ทั้งนี้ทันตแพทย์ที่ดูแลรักษาจะชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆให้คนไข้ทราบ ก่อนการรักษาอยู่แล้ว

การจัดฟัน จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่

         ผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดฟันแน่นอนคือ ฟันที่เรียงเป็นระเบีบบ ซึ่งก็ทำให้ได้รอยยิ้มที่สวยงามขึ้น แผนการรักษาก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน และแต่ละเคสก็พบปัญหาต่างๆกันไป รวมถึงการถอนฟันหรือไม่ถอนฟันก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจรักษาด้านการจัดฟัน ควรเลือกปรึกษากับทันตแพทย์ที่มีความรู้และความชำนาญเฉพาะทาง จัดฟันโดยตรง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ฟันจะไม่กลับไปสู่สภาพเดิมหลังจากที่จัดฟันแล้ว

         เครื่องมือที่ทันตแพทย์ใส่ให้ผู้ป่วย หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันที่ติดอยู่แล้วนั้น คือเครื่องมือช่วยคงสภาพฟัน ซึ่งผู้ป่วยหลังจัดฟันต้องใส่ทุกคน เพื่อป้องกันมิให้ฟันที่จัดไว้แล้วนั้นเคลื่อนไป เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ฟันมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งที่บิดเกเหมือนก่อนจัดฟัน จึงมีความจำเป็นที่ต้องใส่เครื่องมีควบคุม ดังนั้นความร่วมมือของผู้ป่วย ในการใส่เครื่องมือนี้ และไปพบทันตแพทย์ตามนัดหมายอย่างต่อเนื่อง จึงมีความสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้ผลการรักษาประสบความสำเร็จ คงสภาพฟันที่จัดไว้ดีแล้วให้เป็นระเบียบสวยงามต่อไป

ข้อปฏิบัติระหว่างใส่เครื่องมือจัดฟัน

  1. ก่อนเริ่มจัดฟัน ทันตแพทย์จะดูแลรักษาฟันที่ผุ และขูดหินปูน รักษาโรคเหงือก เพื่อเตรียมสภาพในช่องปาก ให้สะอาดแข็งแรง เมื่อเริ่มติดเครื่องมือจัดฟันแล้ว จะต้องเอาใจใส่ในการทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ เพราะเศษอาหารต่างๆ มักติดค้างตามซอกฟัน และเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย นอกเหนือจาก การใช้แปรงสีฟันตามปกติแล้ว ต้องใช้แปรงซอกฟัน หรือใหมขัดฟัน ในการทำความสะอาดด้วย การดูแลรักษาความสะอาดที่ดี จะช่วยให้ได้ผลการรักษาตามที่ต้องการภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
  2. การรับประทานอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง อาหารเหนียว และอาหารก้อนโต เพราะจะทำให้เครื่องมือหลุด หัก หรือลวดหักงอได้
  3. บางกรณีทันตแพทย์อาจมีอุปกรณ์ให้ผู้ป่วยใส่เองขณะอยู่บ้าน เช่น อุปกรณ์ช่วยดึงฟันกราม ยางดึงฟัน ฯลฯ ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถเคลื่อนฟันไปในทิศทางที่ต้องการ
  4. ควรไปพบทันตแพทย์ตามกำหนดเวลานัดหมาย การปล่อยปละละเลย หรือขาดการรักษานานๆ จะทำให้แผนการรักษาเสียไป การรักษายุ่งยากขึ้น และจะมีฟันผุและเหงือกอักเสบได้

Laughingรูปแบบการจัดฟันมีกี่ประเภท คลิกอ่านที่นี่ Laughing

 

จัดฟันกับสไมล์ไอเดีย ได้จัดฟันกับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน จากม.มหิดล

        ค่าจัดฟันโลหะ 35,000 – 42,000 บาท โดยแบ่งชำระครั้งที่ 1-4 ครั้งละ 3,500 บาท  ครั้งต่อๆ ไป ครั้งละ 1,000 บาทจนครบ (แต่ละครั้งนัดห่างกัน 1 เดือน)
ค่าใช้จ่ายก่อนการจัดฟัน
    1. ตรวจและรับคำปรึกษา                                                    ฟรี
    2. พิมพ์ปากเพื่อการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาจัดฟัน        1,000 บาท
    3. เอ็กซเรย์ฟิล์มใหญ่ใบหน้าตรง/ด้านข้าง 2 ฟิล์ม              1,000 บาท
    4. การเตรียมช่องปาก ได้แก่ อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน และอื่นๆที่จำเป็น ดังนั้นค่าใช้จ่ายจึงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับจำนวนฟันผุ และซี่ฟันที่จำเป็นต้องถอนก่อนการจัดฟัน โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่รวมอยู่ในค่าจัดฟัน
     ค่ารีเทนเนอร์หรือ เครื่องมือคงสภาพฟัน (บน+ล่าง) 4,000 บาท ซึ่งจำเป็นต้องใส่หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันออกแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอจัดฟันจะนัดกลับมาตรวจเช็คโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ใส่ความเห็น